วันเดียวเที่ยวสบาย พาเที่ยวอยุธยา ไหว้พระ 9 วัด สนุก ได้บุญ รำลึกความรู้วิชาประวัติศาสตร์ไทยไปในตัว ปิดทริปอยุธยาด้วยกุ้งแม่น้ำอร่อยๆ ที่ร้านชายน้ำ (ไม่มีสาขา)
วันนี้วันดี ลางานได้ 1 วัน ^^ จะนอนตีพุงอยู่บ้านก็เสียดายวันลา ว่าแล้วก็หยิบกล้อง สะพายเป้ มุ่งหน้าไป อยุธยา แค่ 1 ชั่วโมงจาก กรุงเทพฯ ไม่เหนื่อยเกินไป แถมเป็นวันธรรมดาด้วย คนน้อยดีค่ะ
ออกจากกรุงเทพฯเกือบ 11 โมง ถึงอยุธยา ก็… เที่ยงพอดี เริ่มทริปด้วยอาหารเช้าควบเที่ยง 555 ที่ ร้าน coffee old city
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติแฮะ เราเป็นลูกค้าคนไทยโต๊ะเดียวเวลานั้น 555 สำหรับอาหาร+กาแฟ เราว่าก็พอได้นะ ไม่ถึงกับว๊าว… แต่ยังไม่ได้ลองอาหารจานเดียวดู เค้าว่าเลิศอยู่ค่ะ
ทริปนี้ตอนแรกพวกเราแพลนว่า…น่าจะไหว้ประมาณ 2-3 วัดพอ แล้วก็ตระเวนกิน ระหว่างคิดอยู่นั้น…เราเห็นกับป๊อ (ตุ๊กๆกบ) เลยอยากนั่งขึ้นมา 555 เหมากับป๊อเลยดีกว่า เดินออกไปถามลุงหน้าร้านกาแฟ coffee old city ลุงมีแพคเกจให้เลือก 2 แบบ คือ
- เหมารถ ชม.ละ 200
- คิดเป็นวัด วัดละ 100 OMG!
จะแบบที่ 1 หรือ แบบที่ 2 เรามากันสองคนยังไงก็ไม่คุ้ม 5555 เลยต่อลุงนิดหน่อยอยากไหว้พระ 9 วัด ประมาณ 3 ชม. มีแพคเกจเที่ยวไทยวันธรรมดา ราคาคนไทยมั๊ยคะ ลุงคงเอ็นดู+รำคาญ ลดจาก 600 เหลือ 450 บาท
ลุงมีวัดให้เลือกค่ะ เราเลือกในลิสต์แค่บางวัด แล้วก็ขอให้ลุงพาไปวัดอื่นที่สงบๆ รวมกันให้ครบ 9 วัด ได้โปรแกรมมาตามนี้ค่ะ วัดพนัญเชิง->วัดใหญ่ชัยมงคล->วัดพระนอน ->วัดตึก->วัดหน้าพระเมรุ->วัดกลางคลองสระบัว ->วัดศรีโพธิ์->วัดธรรมิกราช-> วัดมหาธาตุ
เรียบร้อยแล้ว ก็โดดขึ้นรถ ไปวัดแรกกันเลย
1. วัดพนัญเชิง
วัดพนัญเชิง ที่ประดิษฐานพระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในพระนครศรีอยุธยา หน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย (แปลว่าชนะมาร)
ตามตำนาน วัดพนัญเชิง เป็นวัดที่พระเจ้าสายน้ำผึ้งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ต่อการจากไปของพระนางสร้อยดอกหมาก คุ้นๆ ป่าว ตอนเด็กๆ เคยเรียน หลายคนเค้าเลยมาวัดพนัญเชิง ขอพรกับพระนางสร้อยดอกหมาก ให้สมหวังในความรัก #เอามั่ง ^^
2. วัดใหญ่ชัยมงคล
เดิมชื่อ “วัดป่าแก้ว”จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด
ตามตำนานบอกว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพิโรธบรรดาแม่ทัพนายกองที่ตามทัพไม่ทัน จึงดำริจะประหารชีวิต แต่ภายหลังทรงสร้างเจดีย์ใหญ่ขึ้นแทนการประหารชีวิต ชื่อว่า “พระเจดีย์ชัยมงคล” ประมาณ พ.ศ. 2135 มีความสูง 1 เส้น 1 วา เป็นเจดีย์ ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจนทุกวันนี้
3. วัดพระนอน หรือ วัดโลกยสุธาราม
มาไหว้พระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์ ปางไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยากันค่ะ พระนอนประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง เป็นศิลปะก่ออิฐถือปูน มีความยาว 42 เมตร สูง 8 เมตร พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ
4. วัดตึก
มาวัดตึกแล้ว อย่าลืมเข้าไปชมโบสถ์ค่ะ เพราะโบสถ์ที่นี่ต่างจากโบสถ์ทั่วไป เรียกว่าโบสถ์มหาอุตม์ คือ มีทางเข้าออกเพียงด้านเดียวและไม่มีหน้าต่าง เหตุผลในการสร้างโบสถ์แบบนี้ หลายคนเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ในการลงอาคมของขลัง การทำเป็นอาคารทึบก็เพื่อให้อาคมคงอยู่และมีพลังความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น พระอุโบสถมหาอุตตม์ นี้ เหลืออยู่น้อยมาก ในประเทศไทย อาจเหลืออยู่เพียง 3-4 แห่งเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นศาสนโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
5. วัดหน้าพระเมรุ
เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย และยังคงสภาพที่ดีมาก เพราะพม่าได้ไปตั้งกองบัญชาการอยู่ที่วัดนี้ พระประธานในอุโบสถสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง หล่อสำริดขนาดใหญ่ที่สุดและมีความงดงามมากๆ
หน้าบันของโบสถ์เป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ เพื่อแสดงให้เห็นว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดหลวง เพราะในสมัยโบราณพระมหากษัตริย์ถือเป็นสมมติเทพ คือเป็นพระนารายณ์อวตาร
6. วัดกลางคลองสระบัว
เลยวัดพระเมรุมาหน่อย ก็จะเจอ วัดกลางคลองสระบัว วัดนี้สงบ คนไม่เยอะ คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาสักการะ หลวงพ่อทันใจ เก่าแก่
ดอกไม้สำหรับไหว้ที่วัดนี้ จะเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ที่ช่วยเหลือคนพิการค่า ^_^
7. วัดศรีโพธิ์
วัดเก่าแก่ มีอายุถึง 255 ปีเชียวนะ ในช่วง พ.ศ.2308-2309 พม่ายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา ก็เคยตั้งค่ายที่วัดนี้ แต่โดนปืนใหญ่กรุงศรีอยุธยา ยิงค่ายแตกไปซะก่อน แล้วเราก็มาเสียกรุงให้พม่าอยู่ดี ในปี พ.ศ.2310
ที่นี่มีธูปเทียนให้เลือกไหว้ตามสีของวันเกิดด้วยนะคะ “น่ารักเชียว…”
8. วัดธรรมิกราช
ติดกับพระราชวังโบราณ และวัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดธรรมิกราชเป็นวัดที่ยังมีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่
สร้างโดยพระเจ้าธรรมิกราช พระราชโอรสของ พระเจ้าสายน้ำผึ้งที่สร้างวัดพนัญเชิง พระเจดีย์สิงห์ล้อม ๕๒ ตัวที่วัดนี้ เป็นพระเจดีย์สิงห์แห่งเดียวในพระนครศรีอยุธยา
นอกจากนั้น วัดธรรมิกราช ยังมีความสำคัญเพราะเป็นวัดที่พระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด) ผนวชอยู่ก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะเสียกรุงให้กับพม่าในปี พศ 2310 ในครั้งนั้น พระเจ้าอุทุมพร ไม่ได้สึกออกมาช่วยพระเจ้าเอกทัศน์รบ ต่อมาพระเจ้าอุทุมพรก็ทรงถูกจับเป็นเชลยทั้งที่ยังคงเป็นพระอยู่
9. วัดมหาธาตุ
เป็นหนึ่งในวัดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วัดมหาธาตุเป็นวัดที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร และเป็นที่พำนักของสมเด็จพระสังฆราชฝ่ายคามวาสีอีกด้วย วัดแห่งนี้จึงได้รับการก่อสร้างและดูแลตลอดเวลาจวบจนถูกทำลายลงหลังเสียกรุงครั้งที่ 2
ตามบันทึกของราชทูตลังกา พระปรางค์วัดมหาธาตุเป็นพระปรางค์องค์ใหญ่ รายล้อมด้วยรูปปั้นสัตว์ในหิมพานต์ เสมือนล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล สมัยก่อนต้องอลังการมากๆ น่าเสียดายที่ตอนนี้เป็นซากปรักหักพังไปซะแล้ว
ครบ 9 วัด เราใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงเป๊ะ กับอีก 1200 แคลลอรี่ 555 อากาศร้อนมากคร่ะ เลยขอแวะกินอะไรเย็นๆที่ Busaba Cafe
กาแฟอร่อย โปะด้วยวิปครีมกับสายไหมอยุธยา หวานนนนชื่นใจ “busaba iced latte” เครื่องดื่มเย็นที่เป็นเมนูกาแฟแนะนำของร้านค่ะ
จากร้าน Busaba Cafe เลยไปไม่ไกล ก็จะเจอร้านชายน้ำ ร้านเก่าแก่ ตรงข้ามกรมที่ดินจังหวัด (มีร้านชายน้ำอยู่อีก 2 ที่ แต่เป็นคนละเจ้าของกันนะคะ แค่ชื่อเหมือนกันเฉยๆ) Facebook Page ต้องค้นหา ร้านชายน้ำ-อยุธยาตรงข้ามกรมที่ดินจังหวัด ถึงจะเจอค่ะ
ร้านชายน้ำ ด้านหน้าเป็นตึกแถวห้องเดียวสีเขียว แต่ด้านหลังมีระเบียง ติดริมน้ำ
ฟินนนนนนนนนนน เติมเต็มทริปให้สมบูรณ์ด้วยกุ้งแม่น้ำเนื้อเด้ง จบทริปนี้ด้วยของอร่อย
พิกัดวัด ร้านอาหาร และ ร้านกาแฟในทริปนี้ คลิก
อ้างอิง: https://th.wikipedia.org/